- Open Everyday : 10:30 - 20:00
- 02 116 4251
ไฮฟู่ หรือ HIFU เป็นนวัตกรรมที่เป็นที่นิยมอย่างมากในการช่วยยกกระชับ ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น และปรับรูปหน้า เหนียง ลำคอ รวมถึงแขน ขา แบบเห็นผลได้ทันทีหลังทำ ซึ่งการทำไฮฟู่ไม่ต้องพึ่งเข็ม ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น จึงเหมาะสำหรับใครก็ตามที่ต้องการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึง แต่การทำไฮฟู่ช่วยได้จริงหรอ เหมาะกับใครที่สุด หากอยากรู้คำตอบ เจยังรวบรวมคำตอบไว้ให้แล้วที่นี่
HIFU หรือ High Intensity Focus Ultrasound เป็นนวัตกรรมการใช้คลื่นอัลตร้าซาวด์ความเข้มข้นสูงส่งเข้าไปทำลายเนื้อเยื่อในชั้นผิวหนังระดับลึกถึงชั้น SMAS (Superficial Muscular Aponeurotic System) ทำให้ผิวหนังหด ดึงตัว เกิดการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่ ส่งผลให้ใบหน้ายกกระชับ ลดริ้วรอยเหี่ยวย่น ชะลอวัย ดูอ่อนเยาว์ขึ้น การทำ HIFU เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเจ็บตัวจากการใช้เข็มฉีดอย่างฟิลเลอร์หรือโบลดกราม
โดยการทำไฮฟู่ด้วยคลื่นอัลตร้าซาวด์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อผิวชั้นนอก และไม่ส่งผลต่อระบบการทำงานของร่างกาย รวมถึงไม่เป็นอันตรายต่อสายตา ดังนั้นจึงมีความปลอดภัยสูง
การทำไฮฟู่เป็นวิธีที่ช่วยกระชับผิวให้ดูอ่อนวัย เหมาะสำหรับผู้ที่มีริ้วรอยบนใบหน้า เช่น ร่องแก้ม รอบดวงตา มุมปาก หรือลำคอมีเหนียงสองชั้น กรอบหน้าไม่ชัด ซึ่งเหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลรวดเร็ว
● ช่วยยกกระชับผิวหน้าให้เต่งตึง ไม่หย่อนคล้อย
● เห็นผลหลังทำทันที 20-30%
● ไม่พึ่งเข็ม ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาพักหน้า
● ไม่มีอาการบวม ช้ำ หรือบาดแผล
● หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ
● มีความปลอดภัยสูง ไม่เป็นอันตราย
● ทำได้บ่อยครั้ง
● อาจมีอาการปวดตึงหรือมีรอยแดงบนใบหน้าหลังทำ แต่จะหายได้เองใน 1-2 ชั่วโมง
● จำเป็นต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้าการทำเพื่อความปลอดภัย
● ค่อนข้างมีราคา
● เหมาะกับทุกคนที่มีปัญหาผิวไม่กระชับ หย่อนคล้อย แก่กว่าวัย
● เหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด
● เหมาะกับผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น
● เหมาะกับผู้ที่กลัวเข็ม ไม่อยากเจ็บตัว
โดยการทำไฮฟู่สามารถทำได้ทุกเพศ อายุตั้งแต่ 20 ขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เริ่มมีริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อย หน้าแก่ก่อนวัยอันควร ดังนั้นใครที่ประสบปัญหาเหล่านี้แนะนำให้ทำไฮฟู่เพื่อยกกระชับผิวตั้งแต่อายุน้อย ๆ จะยิ่งคงสภาพผิวที่ดีไว้ได้
สุขภาพเป็นเรื่องที่สำคัญ ก่อนการทำไฮฟู่แนะนำให้พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำเยอะ ๆ ทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ งดดื่มแอลกอฮอล์ คาเฟอีน สูบบุหรี่ เพราะเมื่อไหร่ที่สุขภาพดีก็จะส่งผลดีต่อการสร้างคอลลาเจนใหม่เช่นกัน
หลังทำไฮฟู่สามารถแต่งหน้า ทาครีมได้ตามปกติ แต่แนะนำให้หลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมที่มีค่า SPF สูง ๆ ซึ่งอาการหลังทำไฮฟู่เสร็จอาจจะมีบวมแดงบ้างเล็กน้อยในบางราย แต่จะหายได้เองใน 1-2 ชั่วโมง หากยังบวมแดงอยู่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ และหากมีอาการปวดตึงสามารถทานยาแก้ปวดได้
นอกจากอาการบวมแดงและปวดตึงในบางรายแล้ว สิ่งที่ควรระมัดระวังสำหรับผู้ที่ทำไฮฟู่คือการงดนวดหรือถูใบหน้าแรง ๆ และไม่ควรสูบบุหรี่หรือดื่มแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มแอลกอฮอล์จะเป็นการทำลายการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ดังนั้นจะทำให้ใบหน้าแก่ก่อนวัยเร็วขึ้น ไฮฟู่ที่ทำไปก็จะเห็นผลน้อยลง
หลังทำไฮฟู่จะสามารถเห็นผลได้ทันที 20% และจะเห็นว่าผิวเรียบเนียน เต่งตึง ได้ชัดเจนในช่วง 2-3 เดือนขึ้นไป หลังจากนั้น HIFU จะคงสภาพอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละคน โดยการทำไฮฟู่สามารถกลับมาทำซ้ำได้เรื่อย ๆ เพื่อให้หน้าดูอ่อนเยาว์สม่ำเสมอ
แม้ว่าการทำไฮฟู่จะไม่ใช่การฉีดหรือผ่าตัด แต่จะยังมีความเจ็บอยู่ แต่เป็นความเจ็บที่สามารถทนได้ ก่อนการทำจะมีการแปะยาชาเพื่อลดความเจ็บลง แต่ยังคงรู้สึกปวด ๆ ตึง ๆ เล็กน้อย ซึ่งสาเหตุที่ทำให้รู้สึกเจ็บเป็นเพราะว่าการทำไฮฟู่จะเป็นการยิงเครื่องอัลตราซาวด์เข้าไปลึกถึงชั้นผิว SMAS ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการเจ็บปวดประมาณหนึ่ง
หากใครไม่ต้องการความเจ็บที่มากเกินไปแนะนำให้แจ้งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ลดระดับพลังงานให้ต่ำลงมาระดับที่คิดว่าทนไหว และใช้วิธีเข้ามาทำไฮฟู่ให้บ่อยมากขึ้นแทนก็ได้เช่นกัน
การทำไฮฟู่สามารถทำได้ทุกจุดทั่วตัวบริเวณที่เราต้องการให้กระชับ โดยหัวที่ใช้ยิงจะแตกต่างกันออกไปตามระดับความลึกของชั้นผิวบริเวณนั้นที่เราจะทำการยกกระชับ ซึ่งบริเวณที่นิยมทำช่วงใบหน้าคือ ร่องแก้ม ใต้ตา มุมปาก หน้าผาก เหนียง คอ รอบดวงตา และกรอบหน้า ส่วนบริเวณลำตัวจะนิยมทำบริเวณต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง และช่วงเอว
จำนวนช็อตที่จะใช้ยิงในการทำไฮฟู่แต่ละจุดขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล หรือความต้องการว่าอยากให้ยกกระชับประมาณเท่าไหน โดยจำนวนช็อตที่ใช้ยิงแต่ละจุดคร่าว ๆ มีจำนวนช็อตดังนี้
● บริเวณเหนียงและกรอบหน้า ประมาณ 200 shot
● บริเวณแก้ม ประมาณ 200-300 shot
● บริเวณหน้าผาก ประมาณ 100-200 shot
● บริเวณต้นแขน ประมาณ 800-1600 shot
● บริเวณต้นขา ประมาณ 800-1600 shot
● บริเวณหน้าท้อง ประมาณ 800 shot
ก่อนเข้ารับการรักษาควรพิจารณาจากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น สถานที่เข้ารับบริการมีความน่าเชื่อถือไหม แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเชื่อถือได้หรือเปล่า คลินิกมีคุณภาพหรือเปล่า มีเครื่องมือที่ได้มาตรฐานหรือเปล่า
หากสาว ๆ คนไหนไม่แน่ใจว่าจะเข้ารับบริการที่ไหนดี ขอแนะนำ J Young Clinic (เจยัง คลินิก) คลินกเวชกรรมที่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ มีใบอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย และมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์มาแล้วกว่า 10 ปี รวมถึงเครื่องที่มีคุณภาพ สามารถเดินทางเข้ามาใช้บริการได้ง่าย ๆ ย่านใจกลางอโศก อาคารไทมส์ สแควร์ ชั้น 3 ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท สามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาและจองคิวล่วงหน้าได้ทางช่องทางการติดต่อดังต่อไปนี้
Website : www.jyounggroup.com
Facebook : J Young Clinic
Line : @jyoung.clinic
Tel : 02-116-4251
แหล่งรวมความรู้เรื่องความงาม คลิกที่นี่
หรือคลิกที่นี่เพื่อสอบถาม/จองคิว
แชร์บทความดี ๆ ให้เพื่อนอ่านกันเถอะ!