- Open Everyday : 10:30 - 20:00
- 02 116 4251
การรักษารอยดำจากสิวเป็นเรื่องง่ายหรือไม่? เพราะสิวเป็นหนึ่งในปัญหาหลักของช่วงวัยรุ่น ทุกคนต้องรู้จักและพบเจอกับมัน ต่อให้รักษาจนหายแล้วแต่สิวก็เป็นตัวการสำคัญ ที่จะทิ้งร่องรอยไว้ให้ดูต่างหน้าอีกด้วย ทั้งรอยดำและรอยแดง ทำให้หน้าดูมีร่องรอยจนต้องแต่งหน้าให้หนาประมาณนึงเพื่อปกปิด แต่ทุกคนก็อย่าเพิ่งหมดหวังกันเพราะวันนี้เราจะมาแนะนำวิธีที่สามารถลดรอยดำรอยแดงลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้ง 4 วิธีกัน!
1. ใช้สมุนไพรมาสก์หน้า
วิธีใช้สมุนไพรมาสก์หน้านี้จะใช้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ โดยทำวันเว้นวัน วันละ 20 นาที การใช้สมุนไพรมาสก์หน้าเป็นวิธีเก่าแก่ที่ทำมาตั้งแต่รุ่นคุณยาย ซึ่งจะช่วยรักษารอยดำจากสิว ลดรอยหมองคล้ำ ลดจุดด่างดำ บริเวณใบหน้าได้เป็นอย่างดี ส่วนสูตรสำหรับการมาสก์หน้าก็มีให้เลือกมากมายหลายสูตร แต่สูตรที่เรายกให้เป็นที่ 1 ก็คือ ใช้มะนาวบวกกับว่านหางจระเข้ เพราะมะนาวมีสารที่เป็นกรดผลไม้ตามธรรมชาติที่จะช่วยผลัดเซลล์ผิวของเราอย่างพอดีไม่มากหรือน้อยเกินไป และว่านหางจระเข้ก็ขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพรที่อยู่คู่คนไทยมานาน มีสารที่ช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดี เมื่อผสมกันก็จะช่วยทำให้ผิวกระจ่างขาวใส มีน้ำมีนวล พร้อมทั้งลดรอยดำจากสิวอีกต่างหาก ส่วนวิธีก็บีบเอาน้ำมะนาวมา 1 ช้อนโต๊ะ ปลอกเปลือกว่านหางจระเข้แล้วเอาวุ้นมาบดผสมกับน้ำมะนาวที่เตรียมไว้ พอกหน้าทิ้งไว้
2. ดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำ
เป็นวิธีธรรมชาติที่ดีที่สุดวิธีนึงเลยสำหรับการดื่มน้ำมะเขือเทศ หลาย ๆ คน คงเคยได้รู้มาบ้างแล้วว่ามะเขือเทศมีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อผิวมากมาย นั้นก็เพราะในน้ำมะเขือเทศสีแดงจะมีสาร Lycopene ( ไลโคปีน ) ช่วยลดการอักเสบของสิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอย ลดรอยดำ รอยแดง และยังมีวิตามิน C ที่สูง ช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ไว ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้นจากมลพิษทางอากาศที่โหดร้าย ทำให้ผิวชุ่มชื่น และที่สำคัญช่วยผลิตคอลลาเจนให้ผิว วิธีก็คือซื้อน้ำมะเขือเทศ 100 % มากินทุกวัน หรือซื้อมะเขือเทศสดมาปั่นแบบแยกกากวิธีนี้จะได้ประโยชน์มากกว่าวิธีแรกนิดนึงเพราะจะได้ทั้งความสดของสารที่อยู่ในมะเขือเทศด้วย
3. รักษารอยดำด้วยการสครับหน้า
คนไหนที่เคยผ่านการเป็นสิวมาจำนวนไม่น้อย และมีรอยดำรอยแดงจากสิวจำนวนมาก การสครับหน้าจะสามารถช่วยในการกำจัดเซลล์ผิวที่หมดสภาพพวกนั้นออกไป ทำให้ผิวเรียบเนียน ไม่เป็นรอยดำรอยแดง โดยสูตรที่เราแนะนำสำหรับสครับหน้าที่ไม่รุนแรงเกินไปก็คือ น้ำตาลทรายแดง + น้ำมะนาว + โยเกิร์ต โดยโยเกิร์ต จะช่วยฟื้นฟูสภาพผิว บำรุงผิว และช่วยกระชับรูขุมขน น้ำตาลทรายแดงจะช่วยสครับผิวที่หมดสภาพออก โดยไม่ทำร้ายผิวเพราะระหว่างที่ทำการสครับ น้ำตาลจะค่อย ๆ ละลายไปด้วย ส่วนน้ำมะนาวจะช่วยลดความมันของหน้าและช่วยผลัดเซลล์ผิวที่เสียด้วย ส่วนวิธีทำก็คือ นำน้ำตลาทรายแดง 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ โยเกิร์ต 1 ช้อนโต๊ะ มาผสมให้เข้ากัน แล้วนำมานวดบนบริเวณใบหน้าให้เป็นวงกลม ไม่ควรนวดแรงเพราะจะทำให้หน้าพังได้ ทำประจำ 3 วัน 1 ครั้ง ก็จะช่วยรักษารอยดำจากสิวได้
4. วิธีการเลเซอร์รอยสิว
เป็นวิธีที่ได้ผลเร็วที่สุด และเห็นผลชัดเจนที่สุด ก็คือรักษาโดยการเลเซอร์ สำหรับใครที่เจอปัญหาสิวบุกรุกใบหน้าแบบหนักหน่วง จนทิ้งร่องรอย หลุม รอยดำ รอยแดง ผิวได้รับความเสียหายแบบหนักมาก อาจต้องใช้การรักษาอย่างการทำเลเซอร์ ซึ่งปัจจุบันคลินิกที่ให้บริการเลเซอร์ก็มีมากมาย อย่าง J Young Clinic เป็นต้น นอกจากจะช่วยทำให้ผิวกลับมาชุมชื่น เรียบเนียน ลดรอยดำ รอยแดง ยังทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นอีกด้วย แต่วิธีนี้ต้องพักฟื้นสักหน่อยเพราะว่าหลังทำเลเซอร์ผิวจะไวต่อแสงแดดมาก พูดง่าย ๆ ก็คือห้ามโดนแดดดนั้นเอง ใช้เวลาไม่เกิน 15 วันก็กลับมาหน้าใสปราศจากรอยดำ รอยแดง หลุมสิวแน่นอน
หากสาว ๆ ไม่แน่ใจว่าจะไปเลเซอร์ที่ไหนดี ขอแนะนำ J Young Clinic คลินิกเสริมความงามที่ให้บริการด้านความงามทั้งการรักษาสิว รวมถึงการรักษาร่องรอยจากสิว แถมตอนนี้ยังมีโปรโมชั่นสำหรับเลเซอร์ลบรอยดำ ฉบับเร่งด่วน แถมยังเดินทางสะดวกด้วย BTS อโศก และ MRT สุขุมวิท หรือหากมีรถส่วนตัวก็มีที่จอดรถให้เช่นกัน ใครมีปัญหารอยแผลจากสิวต้องที่นี่เลย
แหล่งรวมความรู้เรื่องความงาม คลิกที่นี่
สนใจติดต่อ
Website : www.jyounggroup.com
Facebook : J Young Clinic
Line : @jyoung.clinic
Tel : 02-116-4251
หรือคลิกที่นี่เพื่อสอบถาม/จองคิว
แชร์บทความดี ๆ ให้เพื่อนอ่านกันเถอะ!