- Open Everyday : 10:30 - 20:00
- 02 116 4251
ปัญหาใหญ่ของใครหลายคน โดยเฉพาะกับสาว ๆ แล้วนั่นก็คือ ปัญหาหน้าบาน กรามโต บางคนไม่ชอบ ไม่มีความมั่นใจ รู้สึกดูไม่สวยและดูไม่ค่อยดี (แต่บางคนกรามใหญ่แล้วดูสวยก็มีนะคะ) ทำให้ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่ค่อยกล้าออกไปเจอหน้าคนอื่น สาว ๆ หลายคนจึงอยากมีหน้าเรียวสวยมากกว่าหน้าบาน ซึ่งปัญหาพวกนี้เป็นปัญหาที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิดหรือบางคนอาจจะเพิ่งมาเป็นตอนวัยรุ่น และวิธีแก้ปัญหาหน้าบาน กรามโต ก็มีมากมายหลายวิธี แต่วันนี้ J Young Clinic จะมาแนะนำวิธีที่คนส่วนใหญ่นิยมกัน 2 วิธี ก็คือ 1. ฉีดหน้าเรียว ลดกราม 2. ร้อยไหมหน้าเรียว ว่าแต่ละวิธีหน้าแตกต่างกันอย่างไร และเหมาะกับใครบ้าง มาดูกันค่ะ
ฉีดโบลดกราม คือ สารสกัดจากแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) เชื้อโรคนี้หากได้รับมากเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงหรืออาหารเป็นพิษ แต่ถ้าได้รับในปริมาณที่น้อย ๆ พอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อฉีดโบหน้าเรียวไปแล้วจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท เมื่อกล้ามเนื้อทำงานช้าลงจะช่วยลดริ้วรอยและลดกรามโตได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อวงการแพทย์ด้านความงามสมัยใหม่นี้ โดยการฉีดลดกรามได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในอเมริกา และแถบเอเชียอย่างบ้านเรา เพราะเป็นวิธีที่เห็นผลไว และไม่เป็นอันตราย
ร้อยไหม คือการใช้ไหมละลายหลายเส้นร้อยเข้าไปในใต้ผิวหนัง โดยการใช้เข็มนำเส้นไหมเข้าไปนั่นเอง โดยมีจุดยึดบริเวณแก้มส่วนล่างและบริเวณขมับดึงเข้าหากัน ทำให้สามารถดึงแก้มที่ย่อนยานคล้อยได้ จึงนิยมใช้เพื่อปรับรูปหน้า ยกกระชับหน้า กรอบหน้า เมื่อถึงระยะเวลา 8 เดือน ไหมเหล่านี้ก็จะละลายหายไปเองโดยไม่ติดอยู่ใต้ผิวหนัง ซึ่งตรงนี้ต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ผู้ชำนาญ และมีประสบการณ์ รวมถึงไหมที่ใช้ต้องได้รับการรับรองคุณภาพ เพราะจะสลายหายไปเองตามเวลาที่เหมาะสม
2 วิธีนี้แตกต่างกัน ก็คือ โบหน้าเรียวจะใช้สารสกัดจากแบคทีเรีย “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) ฉีดเข้าไปในผิวหนังเพื่อให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ จะเห็นผลชัดเจนว่าหน้าเรียวสวยขึ้นและกรามเล็กลงอย่างมาก แต่การร้อยไหมจะใช้ไหมเส้นเล็กที่สามารถละลายได้เองเป็นจำนวนมากร้อยเป็นเครือข่ายมีผลทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างคอลลาเจน ทำให้เซลล์เหล่านั้นสร้างคอลลาเจนใหม่มาพันรอบแนวเส้นไหม เพื่อดึงกรามให้เล็กลงและลดหน้าบาน โดยเส้นไหมจะอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนนั่นเอง
คนที่มีกรามโตจากกล้ามเนื้อเท่านั้นที่สามารถฉีดโบหน้าเรียวลดกรามได้ โดยทดสอบได้ด้วยตัวเองก็คือลองกัดฟันแล้วปล่อย แล้วจับที่กรามของตัวเองก็จะรู้ว่าเรามีกล้ามเนื้อใหญ่แค่ไหน แต่ถ้าใครกล้ามเนื้อไม่เยอะแต่กรามโตเพราะโครงสร้างหน้าอาจต้องใช้วิธี Ulthera หรือ ULTRA V SHAPE FACE PROGRAM
ส่วนการร้อยไหมใช้ได้กับคนที่ผิวหน้าเหี่ยวย่น หย่อนคล้อยเป็นหลัก และถ้าอายุต่ำกว่า 25 ลงมา ไม่เหมาะกับการร้อยไหมสักเท่าไร เพราะอายุที่เหมาะสมสำหรับการร้อยไหมก็คือ 25 – 50 ปี ส่วนอายุ 25 ลงมาเหมาะกับการฉีดโบมากกว่านะคะ
ทุกคนก็ได้รู้แล้วว่าการฉีดโบลดกราม กับ การร้อยไหมหน้าเรียวนั้นแตกต่างกันอย่างไร เหมาะสมกับใคร และช่วงอายุที่เหมาะสมคือเท่าไรกันแล้ว ถ้าใครสนใจอยากลดกราม หรือ อยากหน้าเรียวก็สามารถปรึกษา J Young Clinic คลินิกความงาม มี 2 สาขาที่อโศกและอ่อนนุช ทางคลินิกมีผู้เชียวชาญและเจ้าหน้านี้ให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลานะคะ แล้วพบกันค่ะ
แหล่งรวมความรู้เรื่องความงาม คลิกที่นี่
สนใจติดต่อ
Website : www.jyounggroup.com
Facebook : J Young Clinic
Line : @jyoung.clinic
Tel : 02-116-4251
ติดตามโปรโมชั่นดีๆ ที่นี่
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.
หรือคลิกที่นี่เพื่อสอบถาม/จองคิว
แชร์บทความดี ๆ ให้เพื่อนอ่านกันเถอะ!