คาดไม่ถึง ! คนรุ่นใหม่เป็นกันเยอะ ออฟฟิศซินโดรมในวัยทำงาน

โรคออฟฟิศซินโดรม บทความ

เมื่อก่อนเราอาจไม่ค่อยได้ยินกันว่า วัยหนุ่มสาวที่นั่งทำงานกันนานๆต่อวันเป็นโรคยอดฮิตอะไรกัน เพราะอาการบางอย่างก็คล้ายกับการปวดกล้ามเนื้อ ล้าร่างกายตามปกติของคนที่ต้องทำงาน แต่ปัจจุบัน หลายคนคงเคยได้ยินชื่อ โรคออฟฟิศซินโดรมกันมากขึ้น แรกๆอาจจะสงสัยกัน แต่ตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่คนวัยทำงานส่วนใหญ่มักเป็นกัน แต่มันก็มีเส้นบางๆกั้นระหว่างปวดเมื่อยเฉยๆกับเป็นโรคกันแน่ วันนี้เจยังคลินิกเลยอยากมาไขข้อข้องใจ ว่าแบบไหนนะที่เรียกว่า “ภาวะออฟฟิศซินโดรม” เข้าให้แล้ว

ทำความเข้าใจ โรคออฟฟิศซินโดรม คือ

โรคที่เกิดจากการใช้ชีวิตประจำวัน โดยการทำอะไรเดิมๆ นั่งท่าเดิมๆนานๆ ไม่ค่อยลุกหรือเปลี่ยนท่าทางตลอดทั้งวัน หรือเรียกอีกอย่างว่า โรคพฤติกรรมก็ได้ ออฟฟิศซินโดรม เป็นอาการที่เกิดจากการเกาะตัวของพังผืดที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งเกิดขึ้นจากการทำงานหรือทำอะไรซ้ำๆเป็นเวลานานและผิดรูปแบบที่ดีของลักษณะร่างกายควรจะเป็น เช่น การนั่งหลังงอ นอนคดตัว หรือแม้แต่การยืนผิดท่าก็จะสามารถเกิดเป็นพังผืด เข้าไปยืดเกาะตามกล้ามเนื้อและเอ็นส่วนต่างๆในร่างกาย ทำให้เกิดอาการปวดเรื้อรัง มีการอักเสบของกล้ามเนื้อ โดยเฉพาะ บริเวณ คอ บ่า ไหล่ ที่มักจะมีอาการบ่อย

6 อาการที่เกิดขึ้น และเข้าข่ายออฟฟิศซินโดรม

  1. ปวดเมื่อย คอ บ่า ไหล่ เป็นประจำ
  2. มีอาการปวดหัว รู้สึกตึงที่ท้ายทอย กินยาไม่ดีขึ้น
  3. เวียนหัว หน้ามืดเป็นประจำ
  4. ตาพล่า มองอะไรไม่ค่อยชัดบางเวลา
  5. ปวดข้อมือ นิ้วล็อค เกร็ง
  6. ขาชา หรือขาเกร็งบ่อยครั้ง เป็นตะคริวง่าย

อาการเหล่านี้ เป็นอาการเริ่มต้นและอาจเกิดขึ้นเป็นประจำมานาน จนเกิดเป็นอาการเรื้อรังได้ แต่แน่นอนถ้าปล่อยทิ้งไว้และไม่ยอมแก้สักที โอกาสที่อาการออฟฟิศซินโดรมจะหายก็ยิ่งมียากขึ้น เพราะเรียกง่ายๆว่า โรคพฤติกรรม ถ้าไม่เปลี่ยนพฤติกรรม หรือถ้าเลี่ยงไม่ได้ ก็ควรหาวิธีรักษาออฟฟิศซินโดรมอย่างจริงจัง ก่อนจะส่งผลร้ายต่างๆตามมาได้

สาเหตุ ที่เกิดออฟฟิศซินโดรมได้

  • พฤติกรรม การนั่งทำงานเป็นเวลานานๆ หรือนั่งหลังค่อม หลังงอ
  • นั่งเกาอี้ไม่เต็มก้น นั่งแค่ครึ่ง หรือแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง
  • นั่งไขว่ห้างเป็นประจำ
  • สะพายกระเป๋า หรือถือของหนักจนเกินไป

วิธีแก้เบื้องต้น เมื่อมีอาการออฟฟิศซินโดรม

  • หมั่นลุกขึ้นยืนบ้าง หมุนเอว หรือเดินบ้าง หลังจากนั่งเป็นเวลานาน
  • ยืดเหยียดเป็นประจำ คล้ายนักกีฬาที่ต้องมีการยืดเส้น ยืดเหยียดเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับร่างกาย
  • ไม่ควรเพ่งจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มากเกินไป ควรแบ่งเวลาในการใช้
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

"แพทย์แผนไทย" ทางเลือกใหม่ ในการรักษาออฟฟิศซินโดรม

การรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมตอนนี้ มีหลายทางเลือกมากขึ้น ทั้งทางแพทย์แผนปัจจุบัน แพทย์ทางเลือก แพทย์แผนจีน และแพทย์แผนไทยเอง ก็มีการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมอย่างจริงจังเช่นเดียวกัน หลายคนอาจมองภาพไม่ออก ว่าการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยจะดียังไงและแตกต่างจากการนวดไหม หลายคนคงสงสัย วันนี้เจยังคลินิก จะมาอธิบายให้ฟังกัน

ทำไมแพทย์แผนไทยถึงรักษาออฟฟิศซินโดรมได้

เพราะการรักษาด้วยแพทย์แผนไทย จะเริ่มตั้งแต่การรวิเคราะห์โรคด้วยการกดจุด จับชีพจร เพื่อให้รักษาได้ตรงมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ออฟฟิศซินโดรม อาจจะไม่ได้เกิดจากการนั่งทำงานนานๆเพียงอย่างเดียว  บางคนอาจเป็นเพราะใส่ส้นสูงติดต่อกันเป็นเวลานานก็ได้ ทำให้กล้ามเนื้อตึงจนเกินไป จนเกิดเป็นออฟฟิศซินโดรมในที่สุด

เมื่อเรารู้ตำแหน่งที่มาของอาการปวด เราก็สามารถใช้การกดจุดเพื่อการคลายกล้ามเนื้อและหลอดเลือดในส่วนนั้นๆ เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น อาการปวดทุเลาลง

ขั้นตอนการประคบร้อนด้วยสมุนไพร เป็นอีกทางรักษาที่แพทย์แผนไทยมักใช้ควบคู่กับการกดจุดรักษาโรคเสมอ เพื่อให้เลือดลมในร่างกายที่มีความซับซ้อน คลายตัวและเลือดไหลเวียนไปทั่วร่างกายได้ดียิ่งขึ้น เมื่อความเย็นและความร้อนในร่างกายสมดุล อาการต่างๆก็จะทุเลาลง

การรักษาโดยแพทย์แผนไทย ต่างจากนวดปกติยังไง

มีการทำหัตถการที่มากกว่า เริ่มตั้งแต่การกดจุดและนำประคบสมุนไพรเข้ามาช่วยในการรักษา และมีการจ่ายยาสมุนไพรจากแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ ส่วนนวดนั้นเป็นแค่การนวดเพื่อการบรรเทาปวดทางปลายเหตุเท่านั้น  ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเพื่อรักษาโรคแต่อย่างใด ซึ่งแตกต่างจากแพทย์แผนไทย ที่มีการวางแผน ตรวจร่างกายก่อนที่จะเริ่มรักษา ไม่ใช่การกดจุดแบบสะเปะสะปะ ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้จากการกดรักษา ใช้เวลาน้อยกว่า แต่ผลลัพธ์มากกว่าแน่นอน

กดจุดรักษาออฟฟิศซินโดรม แพทย์แผนไทย

แหล่งรวมความรู้เรื่องความงาม คลิกที่นี่

สนใจติดต่อ
Website : www.jyounggroup.com
Facebook : J Young Clinic
Line : @jyoung.clinic
Tel : 02-116-4251

หรือคลิกที่นี่เพื่อสอบถาม/จองคิว

แชร์บทความดี ๆ ให้เพื่อนอ่านกันเถอะ!

Share on facebook
Share
Share on twitter
Share

ติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่นี่

ติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่นี่

contact j young clinic เจยัง คลินิก