สู้กันหมัดต่อหมัด! ฟิลเลอร์ VS ฉีดโบ อันไหนดีเราว่าดี

ฟิลเลอร์ โบลดกราม

หลายต่อหลายครั้ง ที่หลายคนน่าจะเคยสับสนกันว่า เอ๊ะ! ฟิลเลอร์กับฉีดโบมันต่างกันยังไงนะ วันนี้เจยังคลินิก จะมาอธิบายให้ทุกคนเห็นภาพกันอีกครั้ง วัดกันไปเลย แบบหมัดต่อหมัด เวลาเข้าคลินิก จะได้ไม่ต้องสับสนและสามารถศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมกันได้อย่างเต็มที่ รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองต้องการเสริมความงามนั้นคือใช้บริการอะไรกันแน่ ถ้าพร้อมกันแล้ว เราไปทำความรู้จักกัน

ฉีดฟิลเลอร์ คืออะไร หลายคนคงสงสัย

การฉีดฟิลเลอร์ คือการฉีดสารเติมเต็ม ประเภท ไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA เข้าไปบริเวณจุดที่มีปัญหา เช่น ปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ผิวหนังหย่อนคล้อย หน้าโทรม ใต้ตาดำคล้ำ ซึ่งสารเติมเต็ม HA คือตัวที่ช่วยที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อเลียนแบบสารธรรมชาติที่มีอยู่ในร่างกายของเรา ซึ่งเมื่อเราอายุมากขึ้น คอลลาเจนและไฮยาลูรอนในร่างกายก็จะสูญเสียไปทำให้เกิดปัญหาผิว ซึ่งถ้าเราฉีดสารเข้าไปจะทำให้ผิวหนังกลับมาเต่งตึง ดูดี สดใส แลอ่อนเยาว์อีกครั้ง

ฉีดโบ คืออะไร ทำไมหลายคนชอบฉีดกัน

ฉีดโบ คือ การฉีดสารสกัดจากแบคทีเรีย ชื่อว่า “คลอสตริเดียม โบทูลินั่ม” (Clostridium botulinum) เชื้อนี้เมื่อได้รับในปริมาณที่พอเหมาะ จะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัว กล้ามเนื้อบริเวณที่เราไม่ต้องการ หรือบริเวณที่เรารู้สึกว่าเป็นส่วนเกิน อ่อนตัวลงหรือไม่ทำงานนั่นเอง แต่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เป็นเทคนิคทางการแพทย์ ที่ต้องได้รับการฉีดจากแพทย์ที่เชี่ยวชาญเท่านั้น เรียกว่าการหยุดกล้ามเนื้อที่เราไม่ใช้ให้อ่อนลง เพื่อช่วยให้ปรับรูปหน้าและหน้าได้รูปมากยิ่งขึ้น

ข้อดี ของ ฟิลเลอร์ VS ฉีดโบ อันไหนดีเราว่าดี

ข้อดี ของฟิลเลอร์

-เติมเต็มร่องรอยต่างๆ ให้ตื้นขึ้น

-ลดอาการใต้ตาดำ ทำให้ตาตื้นขึ้นดูอ่อนเยาว์

-เติมร่อง หลุมขมับและร่องแก้ม ทำให้ตึงไม่หย่อน

-ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เป็นแผล

-เห็นผลทันที ไม่ต้องพักฟื้น

-ไม่เป็นอันตราย เป็นสารที่ทำขึ้นมาเลียนแบบธรรมชาติของร่างกาย

ข้อดี ของฉีดโบลดส่วนต่างๆ

-ลดส่วนต่างๆ เน้นส่วนกล้ามเนื้อให้อ่อนตัวลง เช่น กราม

-เห็นผลรวดเร็ว ใช้เวลาไม่นานก็เข้าที่สวยดั่งใจ

-หลังฉีดเสร็จไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีแผล

-ไม่เป็นอันตราย เป็นการทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัวลงเท่านั้น และจะสลายหายไปเอง

ผลลัพธ์ที่ได้ หลังจากทำเสร็จ

การฉีดฟิลเลอร์ สามารถเห็นผลได้ทันทีหลังฉีด และจะเห็นผลลัพธ์มากขึ้นอย่างชัดเจนเรื่อย ๆ ใน 7-14 วัน และอยู่ได้นานถึง 6-18 เดือน ซึ่งสารฟิลเลอร์ที่เราฉีดเข้าไปไม่อันตราย ไม่ตกค้างในร่างกาย เพราะสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ เพราะฉะนั้นสาว ๆ ทั้งหลายหมดห่วงได้เลยจ้า

การฉีดโบ จะเห็นผล 20% แรกภายในหนึ่งสัปดาห์ หลังจากนั้นจะเริ่มเข้าที่มากขึ้น ตัวยาจะเริ่มเข้าไปทำการสลายกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดอ่อนตัวลงในที่สุด ทำให้รูปหน้าบริเวณที่เราฉีดเข้าไป เกิดการเล็กลง กระชับ ได้สัดส่วน หลังจาก1 เดือน จะเข้าที่และยิ่งเห็นผลชัดมากขึ้น แต่ถ้าเป็นการฉีดเพื่อลดริ้วรอย จะเห็นผลทันทีหลังฉีด และจะยิ่งเข้าที่ภายในสัปดาห์แรก

เห็นไหมคะ ว่าสองอย่างนี้เป็นบริการคนละอย่างกัน คุณสมบัติก็แตกต่างกัน แต่ก็มีบางคลินิกที่ใช้ทดแทนกันบางอย่าง อยู่ที่เทคนิคของคุณหมอแต่ละท่าน ส่วนท่านไหนสนใจบริการของเราหรือยังไม่แน่ใจว่ารูปหน้าของตัวเองเหมาะกับใช้บริการไหน สามารถเข้ามาสอบถามหรือปรึกษาคุณหมอเพิ่มเติมได้ที่เจยังคลินิก ไม่มีค่าใช้จ่ายนะจ๊ะสาวๆ

แหล่งรวมความรู้เรื่องความงาม คลิกที่นี่

สนใจติดต่อ
Website : www.jyounggroup.com
Facebook : J Young Clinic
Line : @jyoung.clinic
Tel : 02-116-4251

หรือคลิกที่นี่เพื่อสอบถาม/จองคิว

แชร์บทความดี ๆ ให้เพื่อนอ่านกันเถอะ!

Share on facebook
Share
Share on twitter
Share

ติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่นี่

ติดตามโปรโมชั่นดี ๆ ได้ที่นี่

contact j young clinic เจยัง คลินิก